ตรงกับวันที่ 1 ธันวาคมของทุกปี เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์ (AIDS) และการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) รวมถึงเพื่อลดอคติทางสังคมและสนับสนุนให้ทุกคนเข้าถึงการตรวจรักษาอย่างเท่าเทียมกัน
สถานการณ์ HIV/เอดส์ทั่วโลกและในไทย
จากข้อมูล UNAIDS ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อ HIV รายใหม่ทั่วโลกประมาณ 1.3 ล้านคนต่อปี ผู้ติดเชื้ออาศัยอยู่ราว 39 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตจากเอดส์ประมาณ 630,000 คนต่อปี
สำหรับ ประเทศไทย ปี 2568 กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า:
- ผู้ติดเชื้อ HIV รายใหม่ประมาณ 8,862 คนต่อปี
- ผู้เสียชีวิตจากเอดส์ประมาณ 10,217 คนต่อปี
- ผู้ติดเชื้อ HIV ที่ยังมีชีวิตอยู่ราว 568,565 คน
แม้จะมีความพยายามควบคุมการแพร่ระบาด แต่ยังคงมีผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ซึ่งเน้นย้ำความสำคัญของ การเข้าถึงการตรวจ การรักษาด้วยยาต้านไวรัสอย่างต่อเนื่อง และการป้องกันการแพร่เชื้ออย่างมีประสิทธิภาพ

HIV และ AIDS ต่างกันอย่างไร?
แม้จะถูกพูดถึงคู่กัน แต่ HIV และ AIDS ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน
- HIV (Human Immunodeficiency Virus)
เชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่ทำลายภูมิคุ้มกันของร่างกาย เมื่อเชื้อเอชไอวีเข้าสู่ร่างกายแล้ว จะยึดจับและทำลายเม็ดเลือดขาวชนิด CD4 เป็นสาเหตุที่ทำให้ภูมิคุ้มกันบกพร่อง หากไม่รับการรักษา ระดับ CD4 ลดต่ำลงเรื่อย ๆ จะทำให้ป่วยเป็นเอดส์ได้ - AIDS (Acquired Immunodeficiency Syndrome)
คนที่ติดเชื้อเอชไอวีที่มีระดับเม็ดเลือดขาวชนิด CD4 ต่ำกว่า 200 ระบบภูมิคุ้มกันและเม็ดเลือดขาวถูกทำลายจนไม่สามารถต้านทานโรค ได้ หรือเรียกว่า “ภูมิคุ้มกันบกพร่อง” ร่างกายจึงมีโอกาสติดเชื้อต่าง ๆ ได้ง่าย
ดังนั้นผู้ติดเชื้อ HIV ไม่เท่ากับผู้ป่วยเอดส์เสมอไป และการรักษาด้วยยาต้านไวรัสอย่างต่อเนื่องช่วยลดโอกาสเข้าสู่ภาวะโรคเอดส์ได้

เชื้อ HIV แพร่อย่างไร?
เชื้อ HIV สามารถแพร่ผ่าน 3 ช่องทางหลัก คือ:
- การมีเพศสัมพันธ์ (ทั้งชาย-หญิง และชาย-ชาย)
- ทางเลือด เช่น การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน หรือการรับเลือดที่ไม่ได้ตรวจ
- จากแม่สู่ทารกในครรภ์ หรือระหว่างคลอดและให้นม

การป้องกัน HIV ทำอย่างไรได้บ้าง?
- มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ใช้ถุงยางสม่ำเสมอ
- ใช้ PrEP เพื่อป้องกันก่อนเสี่ยง
- แบบรายวัน (Daily PrEP) กินยา 1 เม็ดทุกวัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อเนื่อง
- แบบเฉพาะกิจ (On-Demand PrEP) กินก่อนมีเพศสัมพันธ์ อย่างน้อย 2 ชั่วโมง 2 เม็ด และตามด้วยอีก 1 เม็ดหลังจากมีเพศสัมพันธ์ภายใน 24 และ 48 ชั่วโมง เหมาะกับผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ไม่บ่อย สามารถใช้ได้เฉพาะเพศชาย ไม่ต้องกินทุกวันเหมือน Daily PrEP
- ใช้ PEP ภายใน 72 ชั่วโมงหลังเสี่ยง
- ไม่ใช้เข็มหรืออุปกรณ์ฉีดยาร่วมกับผู้อื่น
ผู้ติดเชื้อ HIV สามารถมีชีวิตปกติ สร้างครอบครัว และมีเพศสัมพันธ์ได้ แต่ควรใช้มาตรการป้องกันที่เหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ และป้องกันการติดเชื้ออื่น ๆ ที่อาจแฝงมากับการสัมผัส
Ref:https://www.bangpakok3.com/care_blog/view/234
Ref:https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/article/%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%9E-prep-%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%96%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5-%E0%B8%9B/ Ref:https://www.thaihealth.or.th/%E0%B8%AA%E0%B8%98-%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%A2%E0%B8%9B%E0%B8%B5-68-%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD-hiv-%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1/